
แต่งกายแบบไหน ที่ว่าใช่สาวชาววัง?
How the court ladies were dressed?
สาวชาววังนั้นล้วนได้ชื่อว่าเป็นผู้นำทางด้านความงามและการแต่งกาย กิตติศัพท์นี้ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆนะคะ มีเบื้องหลังอยู่ คือ ความอุตสาหะพยายามและความชาญฉลาดในการคิดค้นเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับยุคสมัย
การประดับตกแต่งที่ใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ฝีมือ เวลา และความทุ่มเทในการทำความสะอาดและเก็บรักษาผ้า ให้เรียบเป็นมัน มีจีบที่สวยคม
เอกลักษณ์หลักที่ว่าใช่สาวชาวังแน่ๆ จะมีอะไร มาดูกันเลยค่ะ ????????

เอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุด คือ กลิ่นหอมที่กำจายไปไกลถึงขนาดมีคำกล่าวว่าสาววังเมื่อนั่งลงที่ไหนก็จะ
“หอมติดกระดาน”
แต่กว่าผ้าจะออกมาหอมทนนานขนาดนั้นต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า
.
“การร่ำผ้า” คือการอบหรือปรุงผ้าให้มีกลิ่นหอม โดยใช้วิธีนำผ้าใส่ในโถหรือหีบทึบที่ปิดแน่นสนิท แล้ว “ร่ำ”
.
การร่ำผ้านี้ทำได้หลายวิธี ทั้งร่ำด้วยควันเทียน ร่ำดอกไม้สด และร่ำด้วยน้ำปรุง ร่ำจนกลิ่นกำซาบเข้าเนื้อผ้า ร่ำเสร็จแล้วจึงนำไปรีดให้เรียบหรืออัดจีบเป็นสไบให้สวยงามตามต้องการ เมื่อเสร็จสรรพพร้อมใช้จึงนำไปเก็บไว้ในหีบซึ่งภายในบรรจุดอกไม้สดหอมเพื่อให้กลิ่นหอมติดทนนานจนกว่าจะนำผ้าออกมาใช้ค่ะ

นอกจากนี้สาวชาววังยังมี ระเบียบในการแต่งกายโดยใช้สีผ้านุ่งผ้าห่มเข้ากัน ตามวันตลอด 7 วัน
หรือที่เรียกกันว่า “สวัสดิรักษา”
.
การนุ่งห่มสีตามวันนี้เพื่อเป็นมงคลและถือเป็นธรรมเนียมของสาวชาววังเลยล่ะค่ะ
.
– วันจันทร์ นุ่งเหลืองอ่อนห่มน้ำเงิน หรือห่มบานเย็น หรือ นุ่งน้ำเงินนำพิราบห่มจำปาแดง
– วันอังคาร นุ่งสีปูน (ปูนแดงกินกับหมาก) หรือม่วงเม็ดมะปราง ห่มโศก (สีใบอ่อนต้นอโศก) หรือนุ่งโศก/เขียวอ่อน ห่มม่วงอ่อน
– วันพุธ นุ่งสีถั่วหรือสีเหล็ก ห่มจำปา
– วันพฤหัสบดี นุ่งเขียวใบไม้ ห่มแดงเลือดนก หรือ นุ่งแสดห่มเขียวอ่อน
– วันศุกร์ นุ่งน้ำเงินแก่ห่มเหลือง
– วันเสาร์ นุ่งเม็ดมะปราง ห่มโศก หรือนุ่งผ้าลายพื้นม่วงห่มโศกเหมือนกัน
– วันอาทิตย์ นุ่งห่มเหมือนวันพฤหัสได้ หรือ นุ่งเขียวห่มแดง หรือ นุ่งผ้าลายพื้นสีลิ้นจี่หรือเลือดหมูห่มโศก
.
การนุ่งห่มเพื่อไว้ทุกข์
– นุ่งผ้าลายพื้นม่วง ห่มผ้าสีนวล
———————-
ข้อมูล
– นิทรรศรัตนโกสินทร์
– พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ